ศูนย์วิจัยทองคำ เผย ดัชนีเชื่อมั่นทองเดือน ก.ย. อยู่ที่ 49.01
เพิ่มขึ้น 5.14 จุด แต่ยังต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่ 4
ส่งสัญญาณเชิงลบต่อเนื่อง เหตุ กังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย
ประเมินราคาทองเคลื่อนไหวต่ำสุดบาทละ 18,500-20,000…
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนกันยายน 2558 ว่า อยู่ที่ระดับ 49.01 เพิ่มขึ้น 5.14 จุด เมื่อเทียบจากเดือน ส.ค. แต่ยังต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนทัศนคติในเชิงลบต่อราคาทองคำ โดยปัจจัยที่กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนทองคำและผู้ค้าทองคำ ยังเป็นประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากมีการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่ในช่วงไตรมาสสอง และที่ผ่านมามีการคาดการณ์ว่าอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในเดือน ก.ย.
“แต่ในช่วงกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง ค่อนข้างชัดเจน รวมถึงความเสี่ยงในเรื่องสงครามค่าเงิน ทำให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ อาจจะดำเนินการได้ยากลำบากขึ้น”
ส่วนปัจจัยหนุนราคาทองคำในประเทศทางกลุ่มตัวอย่าง เชื่อว่า ยังเป็นการอ่อนตัวของค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์ เนื่องจากแนวโน้มของการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน พื้นฐานเศรษฐกิจที่สหรัฐฯ อยู่ในช่วงของการฟื้นตัว ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มทรงตัว โดยเชื่อว่าเงินบาทจะยืนเหนือระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้น 0.1 มาอยู่ที่ระดับ 49.38 สะท้อนความไม่แน่ใจในการฟื้นตัวของราคาทองคำในระยะกลาง โดยการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ยังเป็นปัจจัยกดดันที่สำคัญ ทั้งนี้ ผู้ค้าทองคำ มองว่าราคาทองคำแท่งในประเทศ ราคาสูงสุดน่าจะอยู่ที่ 19,500-20,000 บาทต่อบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 18,500-19,000 บาทต่อบาททองคำ
"จะให้เห็นราคาทองหลุด 17,000 บาท คงยากแล้ว เพราะค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้นมามาก ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวของทองในประเทศ แนวรับมองที่ 18,000-17,800 บาท และแนวต้านมองที่ 20,500-21,000 บาท ภายใต้ค่าเงินบาท 35-37 บาทต่อดอลลาร์" นายกมลธัญกล่าว
เมื่อวันที่ 9 ก.ย. นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในเดือนกันยายน 2558 ว่า อยู่ที่ระดับ 49.01 เพิ่มขึ้น 5.14 จุด เมื่อเทียบจากเดือน ส.ค. แต่ยังต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนทัศนคติในเชิงลบต่อราคาทองคำ โดยปัจจัยที่กดดันความเชื่อมั่นนักลงทุนทองคำและผู้ค้าทองคำ ยังเป็นประเด็นการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลังจากมีการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยตั้งแต่ในช่วงไตรมาสสอง และที่ผ่านมามีการคาดการณ์ว่าอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในเดือน ก.ย.
“แต่ในช่วงกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวลง ค่อนข้างชัดเจน รวมถึงความเสี่ยงในเรื่องสงครามค่าเงิน ทำให้การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ อาจจะดำเนินการได้ยากลำบากขึ้น”
ส่วนปัจจัยหนุนราคาทองคำในประเทศทางกลุ่มตัวอย่าง เชื่อว่า ยังเป็นการอ่อนตัวของค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์ เนื่องจากแนวโน้มของการผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน พื้นฐานเศรษฐกิจที่สหรัฐฯ อยู่ในช่วงของการฟื้นตัว ขณะที่เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มทรงตัว โดยเชื่อว่าเงินบาทจะยืนเหนือระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำในระยะ 3 เดือนข้างหน้า ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยเพิ่มขึ้น 0.1 มาอยู่ที่ระดับ 49.38 สะท้อนความไม่แน่ใจในการฟื้นตัวของราคาทองคำในระยะกลาง โดยการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ยังเป็นปัจจัยกดดันที่สำคัญ ทั้งนี้ ผู้ค้าทองคำ มองว่าราคาทองคำแท่งในประเทศ ราคาสูงสุดน่าจะอยู่ที่ 19,500-20,000 บาทต่อบาททองคำ และกรอบการเคลื่อนไหวต่ำสุดอยู่ที่ 18,500-19,000 บาทต่อบาททองคำ
"จะให้เห็นราคาทองหลุด 17,000 บาท คงยากแล้ว เพราะค่าเงินบาทอ่อนค่าขึ้นมามาก ซึ่งกรอบการเคลื่อนไหวของทองในประเทศ แนวรับมองที่ 18,000-17,800 บาท และแนวต้านมองที่ 20,500-21,000 บาท ภายใต้ค่าเงินบาท 35-37 บาทต่อดอลลาร์" นายกมลธัญกล่าว
