หุ้นไทยปิดเช้าดิ่งเหว ตามตลาดโลก ร่วงแรง 52.43 จุด ที่ระดับ
1,313.18 จุด มูลค่าซื้อขาย 32,800.41 ล้าน กังวล ศก.จีน-ท่าทีเฟด
อาจขึ้นดอกเบี้ย ลุ้นนโยบายกระตุ้น ศก. ครม.ชุดใหม่...
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 58 ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้า ร่วงแรง 52.43 จุด หรือ 3.84% ที่ระดับ 1,313.18 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 32,800.41 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ภายหลังดัชนีหุ้นไทยเปิดตลาดได้ร่วง 30 จุดทันที ก่อนจะไหลลงมาติดลบกว่า 40 จุด ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ร่วงลงในเกณฑ์ 3-7% หลังดัชนีดาวโจนส์ดิ่งแรงกว่า 3% เมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกได้ฉุดตลาดหุ้นทั่วโลกร่วง ลง ขณะที่มีแรงขายนำออกมาในหุ้นขนาดใหญ่นำโดย กลุ่มพลังงาน แบงก์ และสื่อสาร
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.58 น. ดัชนีหุ้นมาอยู่ที่ 1,334.62 จุด ลดลง 30.99 จุด (-2.27%) เมื่อเวลา 10.08 น. ดัชนีหุ้นอยู่ที่ 1,333.21 จุด ลดลง 32.40 จุด (-2.37%) เมื่อเวลา 12.05 น. ดัชนีหุ้นอยู่ที่ 1,315.49 จุด ลดลง 50.12 จุด (-3.67%) จากเปิดตลาดที่ 1,334.62 จุด ลดลง 30.99 จุด (-2.27%)
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดเทรดมาติดลบกว่า 30 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันหนัก ราว 2% ขึ้นไป เนื่องจากมีความกังวลเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ขณะเดียวกัน การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ มีความวิตกว่า อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดได้
ส่วนการปรับ ครม.ชุดใหม่ นักลงทุนต่างรอดูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเมื่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา อาจจะช่วยหนุนตลาดฯ ได้บ้าง
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) 3. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 4. บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ 5. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 58 ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดภาคเช้า ร่วงแรง 52.43 จุด หรือ 3.84% ที่ระดับ 1,313.18 จุด รวมมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 32,800.41 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ภายหลังดัชนีหุ้นไทยเปิดตลาดได้ร่วง 30 จุดทันที ก่อนจะไหลลงมาติดลบกว่า 40 จุด ซึ่งเป็นไปตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศที่ร่วงลงในเกณฑ์ 3-7% หลังดัชนีดาวโจนส์ดิ่งแรงกว่า 3% เมื่อวันศุกร์ ที่ผ่านมา เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกได้ฉุดตลาดหุ้นทั่วโลกร่วง ลง ขณะที่มีแรงขายนำออกมาในหุ้นขนาดใหญ่นำโดย กลุ่มพลังงาน แบงก์ และสื่อสาร
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.58 น. ดัชนีหุ้นมาอยู่ที่ 1,334.62 จุด ลดลง 30.99 จุด (-2.27%) เมื่อเวลา 10.08 น. ดัชนีหุ้นอยู่ที่ 1,333.21 จุด ลดลง 32.40 จุด (-2.37%) เมื่อเวลา 12.05 น. ดัชนีหุ้นอยู่ที่ 1,315.49 จุด ลดลง 50.12 จุด (-3.67%) จากเปิดตลาดที่ 1,334.62 จุด ลดลง 30.99 จุด (-2.27%)
ด้านนายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เปิดเทรดมาติดลบกว่า 30 จุด เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างปรับตัวลงกันหนัก ราว 2% ขึ้นไป เนื่องจากมีความกังวลเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว ขณะเดียวกัน การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)ในวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ มีความวิตกว่า อาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟดได้
ส่วนการปรับ ครม.ชุดใหม่ นักลงทุนต่างรอดูนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเมื่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา อาจจะช่วยหนุนตลาดฯ ได้บ้าง
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1. บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 2. บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) 3. ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 4. บริษัทจัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และ 5. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)